วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Japan trip โตเกียว ทริปชุ่มฉ่ำ วันที่1 กับการบินออกนอกประเทศครั้งแรก

เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก กับ สายฝน

หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินช่วงโปรกับ Airasia ก็จัดแจงเตรียมแผนเที่ยว ช่วงใกล้จะบินก็มีข่าว Airasia เลื่อนไฟลท์แอบเสียวอยู่เหมือนกันว่าจะโดนเลื่อนไหม อุส่าลางานเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายโชคดีมีบินตามปกติ รูปในนี้ใช้มือถือถ่ายทั้งหมด ภาพอาจไม่ได้สวยมาก แต่พอใช้เล่าเรื่องได้

อันนี้เป็นแผนคร่าวๆ


คืนวันที่ 5/7/2015 บินไฟลท์ 23.45 ตามเวลาประเทศไทย ถึงเวลา 8.00 ตามเวลาญี่ปุ่น เลิกงานกลับบ้านเก็บกระเป๋า เตรียมบิน มาถึงก็ต่อแถวเช๊คอิน แถวยาวพอสมควร


ก่อนบินหาอะไรรองท้องก่อน เพราะบินยาว ถึงนู้นก็เช้าพอดี 

เครื่องบินลงจอดที่สนามบินนาริตะ ที่ญี่ปุ่นฝนตกครับท่าน ต่อมาก็หาทางอยู่นาน วางแผนว่าจะซื้อ pass keisei skyliner + metro 2 วัน ราคาคนละ 3200เยน ไปเจอเคาเตอร์ปรากฎว่าเคาเตอร์ที่ขายติดป้าย Close อ้าว ซวยละ จะซื้อที่ไหนได้ เลยลองถามพนักงานแถวๆนั้นดู น้ำตาจะไหล ฟังแทบไม่รู้เรื่อง สุดท้ายเค้าชี้ๆลงไปชั้นล่างเลยลงไปเจออีกเคาเตอร์นึง กว่าจะได้พาสเล่นเอาเหงื่อตก

ที่วางแผนไว้คือซื้อ skyliner ขาเดียว ไว้ใช้ตอนขากลับ นั่งรถไฟยิงตรงจาก keisei ueno มาสนามบินเลย ใช้เวลาแค่ 41 นาที ส่วนขาไป เลือกนั่งรถไฟธรรมดา เพราะกะจะไปเก็บที่เที่ยวแรกคือวัดนาริตะก่อนเลย มารอบหน้าจะได้ไม่ต้องแวะ 

ขึ้นรถไฟครั้งแรก
เดินไปซื้อตั๋ว ถามพนักงานคุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แผนที่มีในหัวกระเจิงหมด สุดท้ายหยอดๆตู้ได้ตั๋วไปสถานี narita มา พอลงไปชานชาลางงหนัก ขึ้นฝั่งไหนวะ สุดท้ายโดดขึ้นมั่วๆ เพราะเห็นคนรอเยอะ ใจก็ลุ้นว่าอย่าให้พลาดตั้งแต่ครั้งแรกเลย สุดท้ายรถไฟมาลงที่ narita ถูกต้อง แต่ดันเป็นสถานี keisei narita  ซึ่งจริงๆต้องเป็น narita ไกลกว่านิดหน่อย ไม่เป็นไร

เย่!!! ขึ้นรถไฟถูก

ลงรถไฟออกจากชานชาลาฝนยังไม่หยุดตกเลย ร่มก็ไม่มี ข้าวก็ยังไม่กิน มองไกลๆเจอแฟมิลี่มาร์ท มีคนบอกว่าร่มหาซื้อได้ง่าย เลยวิ่งฝ่าสายฝนเข้าไปเลยครับ

ได้ร่มล้าวววววว
กับข้าวปั้น1ก้อนรองท้อง


กายพร้อมใจพร้อม เริ่มเดินสิครับรออะไร เปิดแผนที่ดูเดินไกลจุง มือนึงถือกระเป๋า มือนึงถือร่ม นอนบนเครื่องก็นอนไม่ค่อยหลับ เหงื่อชุ่มชื่นจากโคนจรดปลาย 

กูเกิ้ลบอกว่าพี่เดิน18นาทีนะ ช๊อค!!

เดินไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็เจอเป้าหมายแรก อ่านเจอหลายเวป ข้าวหน้าปลาไหลขึ้นชื่อเลยแวะกินหน่อย ชื่อร้าน kawatoyo 

เค้าโชว์แล่กันหน้าร้านเลย

ได้มาแล้ว2กล่อง

จริงๆเดินมาเหนื่อยมาก ร่างกายไม่ค่อยรับ อยากสั่งกล่องเดียวมาแบ่งกันกิน แต่ไม่รู้ว่าจะน่าเกลียดไหม เลยสั่งมาคนละกล่อง สุดท้ายก็กินไม่หมดจริงๆ ตอนนั่งกินมีนักท่องเที่ยวจีนมาสองคนสั่งกล่องเดียว ทางร้านเอาชามแยกมาให้แบ่งกันกินอีกตะหาก รู้งี้สั่งกล่องเดียวก็พอ มื้อนี้ขอไม่อธิบาย เพราะจริงๆปลาไหลหอมมาก แต่ร่างกายเหนื่อยมาก เลยไม่อิน แถมไม่ค่อยได้รับรู้รสสักเท่าไร

ลิ้งร้าน kawatoyo http://tabelog.com/en/chiba/A1204/A120401/12000709/

เดินไปต่อก็ถึงวัดสักทีฝนยังคงเทลงมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด วัดนาริตะเป็นวัดขึ้นชื่อของเมืองนะริตะ จังหวัดชิบะ มณฑนยืนนาน ประเทศเสฉวน พอ หลังๆเริ่มไม่ใช่ละ






ชมวัดเสร็จแล้วก็ต้องลากกระเป๋า ถือร่ม ตากฝนกลับสถานี ณ จุดนี้ไม่ไหวละ แค่ที่แรกก็หมดแรงละ ถึงสถานี keisei narita ปวดท้องหนักขึ้นมา จะได้ลองเข้าห้องน้ำญี่ปุ่นและ เข้าไปห้องน้ำสถานีเป็นแบบนั่งยองๆ แปลกๆงงๆ หันหน้าทางไหนวะ มั่วๆเอา แต่ห้องน้ำสะอาดกว่าที่คิด เสร็จแล้วก็นั่งรถไฟไป keisei ueno ก่อนขึ้นเช๊คใน hyperdia ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. พอดูเวลาที่รถไฟจะมา มาตรงเวลาเป๊ะมาก พอขึ้นรถไฟได้ที่นั่ง ตั้งนาฬิกาปลุกเลยครับ เพราะรถไฟตรงเวลา เราก็เลยตั้งปลุกก่อนถึงปลายทางประมาณ 5 นาที แล้วเราก็หลับเลยครับ 

รูปไม่มีนะครับ หลับยาว ในที่สุดเราก็มาถึง keisei ueno อย่างทุลักทุเล มาถึงก็ผิดคาด ตามแผนกะว่าน่าจะมาถึง ช่วงก่อนเที่ยง แต่มาถึงก็บ่ายกว่าๆแล้ว ฝนก็ตกด้วย เลยลากกระเป๋าเข้าโรงแรมไปฝากตั้งหลักกันก่อน คืนแรกเราพักที่นี่ครับ Sutton place hotel ueno  

ไม่ไกลจากสถานีเท่าไร

 อ่านว่าอะไร อ่านว่า โรงแรมสุดทน ช่ายม๊ายยยย???

จากแผนตั้งใจว่าจะไปวัดอาสะกุสะกัน แต่ด้วยเวลาที่ผิดคาดเราเลยเลือกไปเดินชอปปิ้งในย่าย Ueno เลย จากที่หาข้อมูลเค้าบอกว่าเดือน กค. ดอกบัวที่สวน Ueno จะบานสวยงามมาก เราก็เลยกางร่มไปชมบ่อบัวที่อยู่รอบศาลเจ้าBentenกัน คนละ benten กับเจ้าหนู benten นะ พอไปถึงถึงกับตะลึงครับ


หลังจากเฟลกับการที่จะได้ดูบัวบาน ก็เปิดแผนที่ที่ทำไว้ว่ามีที่ไหนน่าไปอีก แล้วก็เดินเตร็ดเตร่กันต่อ

อันนี้เป็นแผนที่ที่ทำไว้ ใช้ดูคร่าวๆตอนเดิน

หลังจากที่เดินได้สักพักพบว่าเวลาข้ามถนนตรงทางม้าลายเหมือนเรามีเกราะป้องกัน รถจะหยุดให้เราตลอด ต่างกับเมืองไทยที่รถวิ่งไม่สนใจทางม้าลายสักนิด รู้สึกปลอดภัยจริงๆ และตามหน้าโรงแรม หน้าห้าง หน้าตึกแทบทุกที่จะมีถุงพลาสติคไว้ใส่ร่มไม่ให้น้ำหยดเวลาเข้าไปเดินด้วย น่ารักจุงเบย

เจ้าเครื่องนี้แหละ เอาร่มเสียบๆลงไปแล้วดึง ก็จะได้พลาสติคห่อร่มกันน้ำหยดแล้ว

ที่แรกที่แวะไปคือตึกไรไม่รู้ พออ่านออกว่าร้านปาจิงโกะ เคยเห็นแต่ในกาตูนอยากเห็นเลยแวะเข้าไปดูเค้าเล่นกัน แต่เล่นไม่เป็น อยากเล่นเหมือนกัน แต่ไม่กล้าลอง 

โห คนเล่นมีทุกเพศทุกวัย เล่นกันเอาจริงเอาจัง

ต่อมาก็ไปเดินชอปปิ้งที่ตึก Uniqlo ลืมถ่ายรูปมาด้วย ได้เสื้อผ้ามานิดหน่อย ระหว่างนั่งรอแฟนซื้อเสื้อผ้า โชคดีมีเก้าอี้นั่งแถวๆแคชเชียร์ เลยนั่งดูสถานที่เที่ยวว่าจะไปไหนต่อ นั่งอยู่สักพักได้ยินพนักงานพูดอะไรสักอย่าง ประมาน "มาเสะมาเส" กันอย่างต่อเนื่องเป็นสิบรอบ เลยไลน์ไปถามเพื่อนที่เป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นได้ใจความว่า ....


เสร็จแล้วก็มาเดินต่อที่ตลาด ameyoko ฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เลยไม่ค่อยได้แวะซื้ออะไรมากนัก เพราะต้องคอยหุบร่มก่อนเข้าร้านนู้นร้านนี้เลยได้แต่ดูผ่านๆเท่านั้น

หน้าทางเข้าตลาด ameyoko

หลังจากนั้นก็ไปเดินช๊อปกันต่อที่ตึกม่วง ตึก takeya แต่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปมา ฝนตกถ่ายรูปน้อยมาก ได้ของฝากมานิดหน่อย รวมกับเสื้อผ้าจากร้านนู้นร้านนี้ของเริ่มเยอะ เริ่มหนัก จากที่กะจะไป akihabara ต่อ เลยเดินไปเก็บของที่โรงแรมก่อน ค่อยไป akihabara

จาก ueno ไป akihabara แค่ 2 สถานี ใช้เวลาแค่3นาที เปิดแผนที่เที่ยวที่วางไว้ดู 

แผนที่เที่ยว akihabara 

โดยข้อมูลหลักเอามาจาก http://pantip.com/topic/30355886

ฟ้ามืดแล้วฝนก็ยังตก ไม่เป็นไรกางร่มเดิน ท้องร้อง กินข้าวกันก่อนละกันหาร้านอร่อยๆจาก tabelog ใกล้ๆ ไปเจอร้าน katsuya ข้าวหน้าหมูทอด พนักงานเอาเมนูมาให้แล้วเราก็จิ้มๆเอาครับ เพราะสื่อสารไม่ค่อยรู้เรื่อง สุดท้ายก็ได้กินสมใจ




อร่อยครับอร่อย พอท้องอิ่มก็ได้เวลาเดินต่อ จากที่อ่านในพันทิพย์มา ตึกที่อยากไปเปิดหูเปิดตาและใกล้ที่สุดคือ


แผนผังแต่ละชั้น

เจอแล้วเกมที่ว่า แต่ไม่ได้ซื้อมา แพงอ่ะ แต่งตัวเหมือนไปเดินสะพานเหล็กเพราะรองเท้าผ้าใบ กางเกงยีนเปียกหมดละ


ป้าย 18 คืออะไร เราไม่เข้าจายยยย

ดงฟิกเกอร์


เกมมือสอง

 ชั้น5 มีอะไรนะ?

อยากจะสนับสนุนแผ่นแท้เพื่อให้นักแสดงมีกำลังใจทำงานต่อไป แต่ว่าไม่เอาดีกว่า เยอะเกินเลือกไม่ถูก



พักสายตาลงมาดูฟิกเกอร์บ้าง

 ตู้หยอดเหรียญ "คนตกงาน" !!!


 เอิ่ม !!! อันนี้ลังเบียร์

กำลังเดินเปิดหูเปิดตาเพลินๆ มีเรื่องมาขัดจังหวะการเดินจนได้ นึกได้ว่าลืมกระเป๋าไว้ที่ร้านข้าวหมูทอด สุดท้ายเลยต้องรีบกลับไปเอา พอเข้าไปเจอพนักงานคนละคน กว่าจะสื่อสารเข้าใจว่าลืมกระเป๋าไว้ แต่โชคดีเค้าเก็บไว้ให้ ใจดีจุง สุดท้ายได้กระเป๋าคืนแต่ขี้เกียจเดินย้อนกลับไปอีกรอบละ เพราะเริ่มดึกละ ก็เลยเดินไปขึ้นรถไฟกลับ ueno เลย ก่อนเข้าโรงแรมแวะร้านสะดวกซื้อ ซื้อเบียร์แต่ยี่ห้อไหนอร่อยกันนะ ซื้อมาลองหมดเลยละกัน Ebisu แพงสุด ที่เหลือราคาเท่ากัน สุดท้ายพบว่า เมาเหมือนกัน หลับสนิทตลอดคืนเลย

หวานชื่นลื่นล้ม เอ้ย รื่นรมย์ 

กินเสร็จก่อนนอนเที่ยงคืนเศษ จะสูบบุหรี่โรงแรมไม่มีระเบียงด้วย เป็นห้องห้ามสูบบุหรี่ด้วย เลยลงมาถามพนักงาน พนักงานบอกว่ามีจุดสูบบุหรี่หน้าโรงแรม ลงมายืนชิลๆอากาศดีๆ ยังมีคนที่กำลังขับจักรยานกลับบ้าน แต่ที่สังเกตุคือบางคนเจอจุดสูบบุหรี่ก็จะแวะสูบประหนึ่งว่ากูเจอที่สูบละเว้ย เอาสักหน่อย ไม่ได้เดินสูบตามใจฉันแบบบ้านเรา แล้วก็มีพนักงานบริษัทเดินหาโรงแรมนอนกัน เดาว่ารถไฟน่าจะหมดแล้ว หาที่พักใกล้ๆสถานีกัน

วันที่1 กับการเที่ยวญี่ปุ่นท่ามกลางสายฝนก็จบแล้ว พรุ่งนี้จะไปไหนกันต่อ เดี๋ยวว่างจะมาเขียนต่อนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น